|
ทองคำ ในที่นี้ หมายถึง แร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม และมีราคาสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ
แร่ธาตุชนิดอื่น ๆ เมื่อนำแร่ทองคำมาจัดสร้างวัตถุใด ๆ ก็จะได้รับความนิยม มากกว่าวัตถุที่จัดสร้างจาก
วัสดุอื่น ๆ
เมื่อพูดถึงพระทองคำ ก็คงหมายถึง พระพุทธรูป พระเครื่อง หรือ พระเกจิอาจารย์ ที่ทั้งเก่าและใหม่
ได้มีการจัดสร้างจากวัสดุประเภทแร่ทองคำ ซึ่งพระที่สร้างจากเนื้อแร่ทองคำนี้ ในเมืองไทยเราได้มีการ
จัดสร้างกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในยุคทวารวดีกันแล้ว ซึ่งก็มีอายุเกินกว่าพันปี
พระเนื้อทองคำในยุคเก่า ได้มีการสร้างขึ้นมาด้วยกันหลายพิมพ์ หลายขนาดด้วยกัน มีทั้งที่สร้างเป็น
แบบพระพุทธบูชา มีทั้งองค์ขนาดเล็ก และองค์ขนาดใหญ่ หรือองค์ขนาดใหญ่ แบบพระประธานในโบสถ์
เลยก็มี เช่น หลวงพ่อวัดไตรมิตร เป็นต้น ส่วนที่สร้างเป็นแบบพระเครื่องขนาดห้อยคอ ก็มีมากมายหลาย
รูปแบบ พิมพ์ทรง มีทั้งแบบนั่ง ยืน นอนไสยาสน์ และแบบพระสังกัจจายน์
ในยุดสมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษ ๑๑-๑๖) พุทธศิลปซึ่งประยุกต์มาจากศิลปะของประเทศอินเดีย
ในช่วงวัฒนธรรมอินเดียเสื่อมโทรมลงแต่ในระยะเวลาเดียวกัน ประเทศไทยเรากับมีความเจริญรุ่งเรืองด้าน
พุทธศิลปค่อนข้างมาก มีการสร้างศิลปกรรมมากมาย ทั้งโบราณสถาน และโบราณวัตถุต่าง ๆ และเชื่อว่า
ในยุคทวารวดี แร่ทองคำก็คงมีบทบาทไม่น้อยเลยทีเดียว ในการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วไป คงมีค่ารองมา
จากเพชรพลอย จากการขุดพบพระพุทธรูป หรือ เทวรูป ยุคทวารวดีนี้ ส่วนใหญ่จะพบแต่ที่สร้างจากเนื้อ
สำริดทั้งนั้น หาพบน้อยมากที่สร้างจากเนื้อทองคำ สังเกตได้ว่าพระพุทธรูป หรือเทวรูปองค์ไหนที่ได้สร้าง
จากเนื้อทองคำ จะมีลักษณะพิเศษไปจากองค์อื่น ๆ สันนิษฐานได้ว่าผู้สร้างนั้นได้ให้ความสำคัญมาก กับ
วัสดุที่นำมาสร้าง
ยุคสมัยศรีวิชัย ซึ่งเป็นศิลปะร่วมยุคกัน กับยุคสมัยทวารวดี คือ ประมาณพุทธศตวรรษ ๑๓-๑๘ มีความรุ่งเรืองมาก ทางตอนใต้ของประเทศไทยเรา ได้มีศูนย์กลางอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และแทบประเทศ
เพื่อนบ้าน ในประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น พระที่สร้างจากเนื้อทองคำ ศิลปะยุคศรีวิชัยนี้ พบเห็นน้อยเช่นกัน
ส่วนที่พบเห็นบ้าง ก็เป็นพวกเทวรูปพิมพ์ต่าง ๆ และพระพุทธรูปบูชาที่มีขนาดเล็กเท่านั้น แต่ก็เป็นที่ยอมรับ
กันว่า ศิลปะยุคศรีวิชัยนี้ ไม่ว่าจะสร้างทองคำ เนื้อสำริด หรือ งานที่แกะจากหินก็ตาม มีความงดงามไม่แพ้
สกุลช่างในยุค หรือเมืองอื่น ๆ เลย
ยุคสมัยลพบุรี เป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองของศิลปกรรม และปฏิมากรรมสูงมากยุคหนึ่ง และเป็นยุค
ที่บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด มีสลับเปลี่ยน หมุนเวียน ปกครองเมืองกันหลายราชวงศ์ มีทั้ง
คนไทยด้วยกัน และคนต่างชาติ (ขอม) มีการสร้างพระพุทธรูป เทวรูป พระเครื่อง จำนวนมากมายมหาศาล
แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ ที่ว่าเราพบพระเครื่อง หรือพระบูชา และเทวรูป ที่สร้างจากเนื้อทองคำน้อยมาก
ที่พอจะพบเจอมากหน่อยก็จำพวกเนื้อสำริด ที่มีผิวนอกเปียกทองเท่านั้น
ยุคสมัยเชียงแสน เป็นอีกยุคหนึ่ง ที่ความเจริญรุ่งเรือง ติดต่อกันยาวนานหลายร้อยปี ศิลปะและ
ปฏิมากรรม เกิดขึ้นอยู่หลายหัวเมืองในอาณาจักรนั้น แต่ศิลปะทุก ๆ เมือง ก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน จะแตกต่างกันบ้างก็เพียงเล็กน้อย ยุคสมัยเชียงแสนนี้ ทองคำถือว่าเป็นยุคแรกที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย
สูงมาก สังเกตได้จากตามพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เก็บโบราณวัตถุในยุคสมัยเชียงแสนไว้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของ
เครื่องใช้ เครื่องประดับ ซึ่งเป็นของเจ้านายใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น ส่วนมากจะทำมาจากวัสดุที่มีค่า ราคาแพง
ทั้งนั้น เช่น เข็มขัดทองคำ กำไลทอง แหวนทอง เชียนหมากทองคำ เป็นต้น
ส่วนพระพุทธรูป และพระเครื่อง ที่สร้างจากเนื้อทองคำในยุคเชียงแสน ก็ถือได้เลยว่า เป็นยุคแรก
แห่งความเจริญรุ่งเรืองที่สุด ของงานศิลปกรรม ที่สร้างจากเนื้อแร่ทองคำ ยุคเชียงแสนยังเป็นยุคที่มีการ
สร้างพระพุทธรูปบูชา และพระเครื่องเป็นจำนวนมาก หลายเนื้อหลายขนาด และหลายพิมพ์ทรง เป็นยุคที่มี
การสร้างพระจากเนื้อทองคำค่อนข้างมากเช่นกัน
ยุคสมัยสุโขทัย-กำแพงเพชร ศิลปะทั้ง ๒ ยุคนี้ เป็นศิลปะที่บางช่วง ร่วมยุคเดียวกัน และเป็นศิลปะ
ที่เชื่อมต่อยุคกันมา ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะช่างเชียงแสน ทั้ง ๒ ยุคนี้ มีการสร้างพระทองคำ
บ้างพอสมควร เท่าที่พบเห็น ส่วนใหญ่ศิลปะช่างจะอยู่ในยุคช่วงสุโขทัยต้น ๆ และสันนิษฐานว่า ช่วงยุค
ปลายสุโขทัยและกำแพงเพชรนั้น บ้านเมืองคงเกิดสงครามบ่อย วัสดุประเภททองคำ คงมีความสำคัญมาก
ในการใช้เป็นเสบียงของบ้านเมือง มากกว่านำมาใช้ในการสร้างปฏิมากรรม ศิลปะต่าง ๆ ทำให้พบพระ
ที่เป็นเนื้อทองคำน้อยมาก ที่พบบ้างส่วนใหญ่ก็เป็นพระจำพวกบุทอง หรือหุ้มทองเท่านั้น
ยุคสมัยอยุธยา ก็ถือว่าเป็นอีกยุค ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ด้านแร่ทองคำอีกยุคหนึ่งเลยทีเดียว
มีการสร้างปฏิมากรรมด้านพระเครื่อง พระพุทธรูปบูชา จากแร่ทองคำจำนวนมากมาย มีทั้งขนาดองค์เล็ก
และขนาดใหญ่ หลายประเภท ซึ่งในปัจจุบันพระเนื้อทองคำเหล่านี้ ทุกพิมพ์ทรง ได้รับความนิยมสูงมาก
และพิมพ์ที่ถูกกล่าวขานมากที่สุด คงไม่พ้น พระพิมพ์ยอดธง ซึ่งได้สร้างด้วยกันหลายเนื้อ หลายขนาด
มีทั้งพิมพ์ยืน พิมพ์นั่งสมาธิ นั่งมารวิชัย และพิมพ์พระสังกัจจายน์ มีการพบเจอพระยอดธง เนื้อทองคำ
ด้วยกันหลายกรุ ในเมืองอยุธยา พบที่ กรุวัดราชบูรณะ กรุวัดบรมธาตุ และกรุวัดมเหยงค์ ในจังหวัด
ใกล้เคียง ก็ยังพบเจอด้วนกันหลายแห่ง เช่น จ.ปทุมธานี พบที่กรุวัดไก่เตี้ย และวัดพระสิงห์ จ.นนทบุรี
พบทีกรุวัดเชิงท่า กรุงเทพก็ยังพบที่กรุวังหน้า เป็นต้น
พระยอดธง เนื้อทองคำ ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เหตุเพราะเชื่อว่า เป็นพระที่สร้างไว้ติดบน
ปลายธงรบของกษัตริย์ หรือแม่ทัพใหญ่ ในการออกรบกับข้าศึก ติดไว้เพื่อให้มีชัยชนะกลับมา ปัจจุบัน
พระยอดธงที่เป็นเนื้อทองคำไม่ว่าจะเป็นกรุไหน ๆ ก็หาชมของแท้ได้ยากมาก
ยุคปัจจุบัน แร่ทองคำกลายเป็นสินค้าเศรษฐกิจไปแล้ว และสามารถเป็นเครื่องวัดเศรษฐกิจของแต่ละ
ประเทศในโลก ค่าของทองคำ ปัจจุบันนั้นมีรูปแบบต่างไปจากอดีตในยุคก่อนโดยสิ้นเชิง ทองคำ ถึงใน
ปัจจุบันจะเป็นแร่วัตถุที่มีราคาแพงมากก็ตาม แต่ถ้าเรามีกำลังซื้อ เราก็สามารถเป็นเจ้าของได้เท่าที่ต้องการ
ในยุคปัจจุบัน มีการสร้างพระพุทธรูปบูชา และพระเครื่อง ที่เป็นเนื้อทองคำ กันมากมายหลายวัด
ซึ่งมีเครื่องมือที่มีวิวัฒนาการต่าง ๆ จะออกรูปแบบ ให้สวยงามขนาดไหนก็ทำได้ จำนวนการผลิตมีไม่จำกัด
ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ขึ้นชื่อว่าพระที่สร้างมาจากเนื้อทองคำ ส่วนใหญ่จะมีค่า หรือมีราคาสูงกว่า
พระที่สร้างจากเนื้อวัสดุชนิดอื่น ๆ
การปลอมแปลงนั้นไม่ต้องกลัวเลย เขามีการทำปลอม ลอกเลียนแบบกันมานานหลายสิบปีแล้ว มีการ
ทำปลอมศิลปะทุกยุค ทุกสมัย ซึ่งทำจากเนื้อทองคำแท้ ๆ ในตลาดพระ เท่าที่พบเห็น พิมพ์ที่ทำปลอม
มากที่สุด ก็คงไม่พ้นพระพิมพ์ยอดธง รองลงมาก็ประเภทพระบุทอง มีการทำปลอมแปลงหลากหลายฝีมือ
ฉะนั้นหากจะเช่าซื้อควรระวังให้จงหนัก ต้องวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน ดูศิลปะเป็น ศึกษาความเก่า ความแห้งของ
อายุพระให้ขาด ต้องทำความเข้าใจ ในภาพรวมของพระองค์นั้นให้ได้ และที่สำคัญที่สุด หากว่าเราไม่
ชำนาญจริงอย่าเล่นคนเดียว
นุ เพชรรัตน์
|
|
|